ผัก 3 ชนิดที่ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง

มะเร็งเป็นโรคร้ายที่สร้างความวิตกกังวลให้กับคนทั่วโลก การดูแลสุขภาพด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้ ผัก 3 ชนิด ได้แก่ **กระหล่ำม่วง มะเขือเทศ และแครอท** เป็นตัวอย่างที่ดีของอาหารที่มีสารอาหารสำคัญ

ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง มาดูกันว่าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง

  1. กระหล่ำม่วง

กระหล่ำม่วงจัดเป็นผักตระกูลกะหล่ำที่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สารนี้ช่วยป้องกันการอักเสบและลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง นอกจากนี้ กระหล่ำม่วงยังมีสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane)

huaylike เติมเงินไม่เข้า     ที่พบได้ในผักตระกูลกะหล่ำทุกชนิด โดยสารนี้ช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งใหม่และส่งเสริมการกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกาย อีกทั้งกระหล่ำม่วงยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

  1. มะเขือเทศ

มะเขือเทศเป็นแหล่งสำคัญของไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงมะเร็ง

โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร ไลโคปีนช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระและลดการอักเสบในร่างกาย มะเขือเทศยังมีวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการเกิดเซลล์มะเร็ง

การรับประทานมะเขือเทศในรูปแบบปรุงสุก เช่น ซุปมะเขือเทศหรือซอสมะเขือเทศ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดียิ่งขึ้น

  1. แครอท

แครอทเป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งกระเพาะอาหาร เบต้าแคโรทีนมีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดความเสียหายของ DNA

และช่วยกำจัดสารพิษที่เป็นอันตรายในร่างกาย นอกจากนี้ แครอทยังมีสารฟาลคารินอล (Falcarinol) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง แครอทยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและบำรุงสุขภาพผิวหนัง

 

การบริโภคที่เหมาะสม

การรับประทานผัก 3 ชนิดนี้ในปริมาณที่เหมาะสมและหลากหลาย เช่น นำมาปรุงในสลัด น้ำผักปั่น หรือผัดผักรวม ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการปรุงด้วยน้ำมันหรือไขมันมากเกินไป เพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการของผักไว้ให้ได้มากที่สุด

 

สรุป

การรับประทานกระหล่ำม่วง มะเขือเทศ และแครอทเป็นประจำ สามารถช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสารอาหารที่มีคุณสมบัติเด่นในการต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง

การใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคและสร้างชีวิตที่ยืนยาว

ทำบ้านทั้งที บันไดที่คุณเลือกเหมาะกับบ้านหรือไม่

รวมไอเดียเลือกจัดทำออกแบบบันไดบ้านแบบอย่างต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความเก๋ไก๋ให้กับบ้าน สำหรับบ้านที่มี 2 ชั้นขึ้นไป

มักเผชิญกับปัญหากที่มีความคิดว่าบันไดบ้านของพวกเรานั้นอยู่ผิดที่ถูกทาง

หรือมีความคิดขึ้นมาว่าหากบันไดบ้านพวกเราอยู่อีกแบบหนึ่งคงดีมากยิ่งกว่านี้ โดยเหตุนี้ในแนวทางการวางแบบแล้วก็วางแผนผังบ้านควรจะให้ความเอาใจใส่กับส่วนของบันไดด้วย

ด้วยเหตุว่าพวกเราจำเป็นที่จะต้องใช้งานบันไดอันนี้ไปอีกนานอย่างยิ่งจริง ๆ ก็จะต้องมีการออกแบบบันไดที่ดีด้วย 

แนะนำไอเดียบันไดบ้านต้นแบบต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความสวยงานให้บ้าน

บันไดแบบเบสิก (single flight) เป็นแบบบันไดทางตรง โดยไม่มีการเลี้ยวโค้งอะไรก็ตามเป็นอีกต้นแบบบันไดที่ประยุกต์ใช้บ่อยครั้ง เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่น้อยแคบ พื้นที่ใต้บันไดสามารถใช้ประโยชน์ได้อีก ได้แก่ เก็บของ หรือทำเป็นชั้นที่มีไว้วางหนังสือก็เก๋ดี

แม้กระนั้นต้องระมัดระวัง แม้บ้านหลังไหนที่มีเพดานสูง หรือมากยิ่งกว่า 2 ขึ้นไป ควรจะทำระเบียงพักเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสำหรับในการใช้งานด้วย

 

บันไดรูปตัวแอล (L-Shaped stair) บันไดรูปแบบนี้เหมาะสมกับบ้านที่ออกจะมีพื้นที่จำกัดด้วยเหมือนกัน โดยถ้าหากวางบันไดในแบบเบสิกอาจก่อให้มีพื้นที่ไม่พอ หรือเปลี่ยนเป็นบันไดที่ชันเหลือเกิน

เมื่อใช้งานบางทีอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ก็เลยมีมุมของบันไดที่หัก 90 องศาเพื่อเบี่ยงไปอีกทาง แม้กระนั้นไม่ทำให้เสียความเกี่ยวเนื่องสำหรับเพื่อการใช้งาน เหมือนกันพื้นที่ใต้บันไดลักษณะนี้ก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน

บันไดแบบหักกลับ (Return stair) บันไดแบบหักกลับแบบ ส่วนใหญ่จะเข้ากับทุกบ้านทุกสไตล์และเจอได้บ่อย โดยมากจะเจอได้กับบ้านทั่ว ๆ ไป เนื่องมาจากเหมาะสมกับบ้านทุกแบบอย่าง

บันไดโค้ง ทั้งนี้มันจะเหมาะสมกับบ้านที่มีพื้นที่กว้างพื้นที่เหลือๆ  มักตั้งอยู่ที่โถงกลางบ้าน สามารถเปิดมุมมองของผู้ใช้งานได้ 380 องศา แม้กระนั้นบันไดลักษณะนี้จะไม่มีพื้นที่ใต้บันไดไว้ใช้งาน

บันไดวน อย่างนี้เหมาะสมกับบ้านที่มีพื้นที่ไม่เยอะ เพราะมันจะไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และไม่นิยมใช้บันไดอย่างนี้เป็นบันไดหลักของบ้าน

จะตั้งไว้ตามจุดที่อยากให้มีบันได แต่ว่ามีพื้นที่น้อยนั่นเอง ส่วนมากอาจมีไว้โชว์ออกแบบที่งามแทนที่จะใช้งาน

บันไดลิง บันไดลักษณะนี้ไม่เหมาะสมจะใช้เป็นบันไดหลัก แม้กระนั้นเหมาะสมจะเป็นบันไดเสริมแทน เช่น บันไดขึ้น-ลงยังห้องเก็บของใต้หลังคา ฯลฯ ไม่รับประทานพื้นที่ และไม่ควรจะสูงเกิน 4 เมตร เพราะเหตุว่าจะทำให้เป็นอันตรายต่อการใช้งาน

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    หวยดีพลัส

ต้นกำเนิดและข้อมูลเกี่ยวกับดาวพฤหัส

ข้อมูลเกี่ยวกับดาวพฤหัส

ดาวพฤหัสคือดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่คนทั่วโลกรู้จักกันดีแม้ว่าจะไม่ได้มีการสนใจเกี่ยวกับดวงดาวก็ตาม

เนื่องจากว่าดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่ผู้คนนั้นรู้จักจากการผ่านการเล่าเรื่องของคนเฒ่าคนแก่ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับดาวพฤหัส

 

ต้นกำเนิดของดาวพฤหัส

ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ยักษ์ในระบบสุริยะ และเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะเช่นกัน มีมวลมากกว่ามวลรวมของดาวเคราะห์ทั้งหมด ดาวพฤหัสเกิดขึ้นพร้อมกับการก่อตัวของระบบสุริยะประมาณ 4.5 พันล้านปีที่แล้ว

มันเกิดจากการรวมตัวของก๊าซและฝุ่นในดิสก์โปรโต-ดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นส่วนที่หลงเหลือจากการก่อตัวของดวงอาทิตย์

 

การค้นพบและการศึกษา

ดาวพฤหัสเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากเป็นวัตถุที่สว่างและสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในท้องฟ้ายามค่ำคืน นักดาราศาสตร์โบราณจากหลายวัฒนธรรม เช่น บาบิโลน กรีก และจีน ได้บันทึกการเคลื่อนที่ของดาวพฤหัส

อย่างไรก็ตาม การสังเกตที่สำคัญเกิดขึ้นในปี 1610 เมื่อกาลิเลโอ กาลิเลอีใช้กล้องโทรทรรศน์ครั้งแรกเพื่อสังเกตดวงจันทร์ของดาวพฤหัส (ที่รู้จักกันในชื่อดวงจันทร์ของกาลิเลโอ) ทำให้เกิดความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับระบบสุริยะ

เหตุผลที่ต้องศึกษาเกี่ยวกับดาวพฤหัส

  1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการก่อตัวของระบบสุริยะ: การศึกษาดาวพฤหัสช่วยให้นักดาราศาสตร์เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการก่อตัวของระบบสุริยะและดาวเคราะห์ยักษ์
  2. การสำรวจดวงจันทร์: ดาวพฤหัสมีดวงจันทร์มากกว่า 79 ดวง รวมถึงดวงจันทร์สำคัญ เช่น ยูโรปา ไอโอ และแกนีมีด ที่มีความน่าสนใจในการศึกษามากเนื่องจากอาจมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต
  3. การสำรวจบรรยากาศ:บรรยากาศของดาวพฤหัสมีพายุใหญ่ (เช่น จุดแดงใหญ่) และมีโครงสร้างที่ซับซ้อน ทำให้เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศและระบบพายุ
  4. การศึกษาวงแหวน: แม้ว่าดาวพฤหัสจะไม่โดดเด่นในเรื่องวงแหวนเท่ากับดาวเสาร์ แต่มันยังมีวงแหวนบาง ๆ ที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการก่อตัวของวงแหวนในระบบสุริยะ

 

ประโยชน์ของการศึกษา

– การเข้าใจจักรวาล: การศึกษาเกี่ยวกับดาวพฤหัสช่วยให้เรามีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับกฎฟิสิกส์และเคมีที่ควบคุมการก่อตัวและวิวัฒนาการของดาวเคราะห์

– การค้นหาชีวิตนอกโลก: ดวงจันทร์บางดวงของดาวพฤหัส เช่น ยูโรปา อาจมีมหาสมุทรใต้ผิวน้ำที่อาจสนับสนุนชีวิต ทำให้เป็นเป้าหมายสำคัญในการค้นหาชีวิตนอกโลก

– การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: การศึกษาดาวพฤหัสและการสำรวจด้วยยานอวกาศ เช่น ยาน Juno ช่วยในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในด้านอื่น ๆ ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ดาวพฤหัสเป็นเป้าหมายการศึกษาที่น่าตื่นเต้นและมีความสำคัญอย่างยิ่งในวงการดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    Alpha88 สล็อต

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกที่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์คือโอลิมปิกโบราณที่เมืองโอลิมเปีย ประเทศกรีซ ในปี 776 ก่อนคริสตกาล

การแข่งขันนี้มีลักษณะเป็นการเฉลิมฉลองและบูชาเทพเจ้าซูส จึงเป็นการแข่งขันที่จำกัดอยู่ในภูมิภาคกรีซโบราณ

และมีเพียงเมืองรัฐต่าง ๆ ของกรีซเท่านั้นที่เข้าร่วม เช่น เอเธนส์ สปาร์ตา และโครินธ์ ไม่มีประเทศอื่น ๆ เข้าร่วม เนื่องจากในเวลานั้นประเทศต่าง ๆ ยังไม่มีการจัดตั้งขึ้นตามแนวคิดของยุคสมัยใหม่

แนวความคิดของการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกิดมาจากความต้องการเฉลิมฉลองและบูชาเทพเจ้า

รวมถึงเพื่อเป็นการแสดงความแข็งแกร่งและทักษะของนักกีฬาต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการแข่งขัน การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมและศาสนาของชาวกรีกโบราณ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเมืองรัฐต่าง ๆ และลดความขัดแย้งทางการเมือง

 

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในช่วงโบราณมีกีฬาหลายประเภทที่บรรจุไว้ในการแข่งขัน ได้แก่:

  1. วิ่ง การวิ่งระยะทางประมาณ 192 เมตร
  2. วิ่งมาราธอน การวิ่งระยะทางประมาณ 384 เมตร
  3. วิ่งระยะทางไกล การวิ่งระยะทางหลายกิโลเมตร
  4. การวิ่งถือโล่ การวิ่งที่นักกีฬาต้องถือโล่และอาวุธ
  5. การกระโดดไกล 
  6. การขว้างจักร 
  7. การขว้างหอก 
  8. การต่อสู้ การต่อสู้ที่รวมการชกมวยและมวยปล้ำ
  9. การชกมวย 
  10. การแข่งรถม้า 
  11. การแข่งม้า 

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในสมัยโบราณนั้นมีความแตกต่างจากการแข่งขันในปัจจุบันมาก โดยเน้นที่ความสามารถทางกายภาพและความแข็งแกร่งของนักกีฬาเป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันนั้นมีมากมายหลายประเภทเลยทีเดียว 

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้รับความนิยมจากทั่วโลกเนื่องจากหลายปัจจัย:

  1. การฟื้นฟูการแข่งขันในยุคสมัยใหม่: การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในยุคสมัยใหม่ถูกฟื้นฟูโดยบารอน ปิแอร์ เดอ กูแบร์แตง (Baron Pierre de Coubertin) ในปี 1896 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ แนวคิดของกูแบร์แตงคือการสร้างสันติภาพและความเข้าใจระหว่างประเทศผ่านการแข่งขันกีฬา
  2. การรวมตัวของนักกีฬาจากทั่วโลก: โอลิมปิกสมัยใหม่มีการเปิดโอกาสให้นักกีฬาจากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งทำให้เป็นเวทีสำหรับการแสดงความสามารถและทักษะของนักกีฬาจากหลากหลายชาติ
  3. การสนับสนุนจากองค์การระหว่างประเทศ: คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) ได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและจัดการแข่งขันโอลิมปิกสมัยใหม่ให้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมทั่วโลก
  4. การสื่อสารและการถ่ายทอดสด: การพัฒนาของสื่อมวลชนและการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถรับชมการแข่งขันโอลิมปิกได้ ซึ่งส่งผลให้ความนิยมและการติดตามการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  5. การสร้างสัญลักษณ์และพิธีการที่น่าจดจำ: การแข่งขันโอลิมปิกมักมีพิธีเปิดและพิธีปิดที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงการมอบเหรียญรางวัลและการจุดไฟโอลิมปิกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่น่าจดจำและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลก

 

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่จึงกลายเป็นเวทีที่สำคัญในการแสดงความสามารถทางกีฬาและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยมีนักกีฬาจากหลากหลายประเทศทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันในแต่ละครั้ง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    telos95 อาหารเสริม

หากคุณฉี่ออกมาเป็นเลือด เป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับอะไร

การปัสสาวะออกมาเป็นเลือดหรือที่เรียกว่า ภาวะเลือดในปัสสาวะ  เป็นสัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งออกมาเพื่อบอกถึงปัญหาสุขภาพบางประการ การมีเลือดในปัสสาวะสามารถบ่งบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงภาวะรุนแรง ในบางกรณี

การปัสสาวะเป็นเลือดอาจไม่ได้อันตรายมาก แต่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์อย่างเร่งด่วนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและการรักษาที่เหมาะสม

สาเหตุของปัสสาวะเป็นเลือด

  1. การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (UTI)  

   การติดเชื้อแบคทีเรียที่กระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะสามารถทำให้เกิดอาการปัสสาวะเป็นเลือดได้ ซึ่งมักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะบ่อย แสบขณะปัสสาวะ และปวดบริเวณท้องน้อย

  1. นิ่วในไตหรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ 

   นิ่วเกิดจากการสะสมของแร่ธาตุที่กลายเป็นก้อนแข็ง ซึ่งสามารถเคลื่อนตัวไปตามระบบทางเดินปัสสาวะ เมื่อนิ่วขยับไปตามทางเดินปัสสาวะ อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บและมีเลือดออกในปัสสาวะได้

  1. โรคไต 

   การอักเสบหรือการติดเชื้อในไต เช่น ไตอักเสบ  สามารถทำให้เลือดหลุดออกมาปนกับปัสสาวะได้ นอกจากนี้ ภาวะไตที่เสื่อมจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือการติดเชื้อไวรัสบางชนิดอาจทำให้เลือดออกในปัสสาวะ

  1. การบาดเจ็บที่ไตหรือกระเพาะปัสสาวะ  

   การได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหลังส่วนล่างหรือท้อง เช่น อุบัติเหตุหรือการกระแทกแรงๆ สามารถทำให้เลือดออกจากไตหรือกระเพาะปัสสาวะและส่งผลให้ปัสสาวะมีเลือดปน

  1. มะเร็ง 

   ในบางกรณี การปัสสาวะเป็นเลือดอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็ง เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไต หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก** ซึ่งในระยะแรกๆ อาจไม่มีอาการอื่น แต่หากพบเลือดในปัสสาวะเป็นประจำ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย

  1. ยาบางชนิด  ยาบางประเภท เช่น ยาแก้อักเสบ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยารักษามะเร็ง อาจทำให้เกิดภาวะเลือดในปัสสาวะได้เนื่องจากผลข้างเคียงของยา

การที่ปัสสาวะมีเลือดอาจเป็นสัญญาณของโรคที่อันตรายได้ โดยเฉพาะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม การละเลยอาการปัสสาวะเป็นเลือดอาจทำให้ปัญหาทางสุขภาพลุกลาม เช่น การติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด การมีนิ่วในไตหรือมะเร็งที่ไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะร้ายแรง

การแก้ไขและรักษา

  1. การไปพบแพทย์  

   สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการปัสสาวะเป็นเลือด แพทย์อาจทำการตรวจปัสสาวะ การตรวจเลือด การทำอัลตราซาวนด์ หรือการส่องกล้องเพื่อดูโครงสร้างภายใน

  1. การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุ 

   – หากเป็นการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะ

   – หากเป็นนิ่วในไต แพทย์อาจให้ยาช่วยขับนิ่วหรือในบางกรณีอาจต้องผ่าตัด

   – หากเป็นมะเร็ง การรักษาอาจรวมถึงการผ่าตัด เคมีบำบัด หรือรังสีรักษา

การที่ฉี่ออกมาเป็นเลือดเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าในบางกรณีอาจไม่ร้ายแรง แต่การละเลยอาจนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

 

สนับสนุนโดย      เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

เบื่อไหมกับการอ้วนลงพุง เอวห่วงยาง

อาการอ้วนลงพุง หรือที่เรียกกันว่า “เอวห่วงยาง” เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอายุเพิ่มขึ้น แต่ยังสามารถเกิดได้ในคนทุกเพศทุกวัย หากไม่ดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องความมั่นใจในรูปร่างเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคไขมันพอกตับ

การที่รอบเอวขยายใหญ่จนเหมือนมีห่วงยางเป็นสัญญาณเตือนว่า ร่างกายของคุณกำลังสะสมไขมันไว้บริเวณช่องท้อง ซึ่งเป็นชนิดไขมันที่อันตรายที่สุดเพราะจะไปล้อมรอบอวัยวะสำคัญต่างๆ

 

สาเหตุของการอ้วนลงพุง

  1. การรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูงเกินไป 

อาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และอาหารแปรรูปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันที่พุง การรับประทานอาหารแบบไม่สมดุลหรือขาดสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จะทำให้การเผาผลาญลดลงและมีการสะสมพลังงานเกิน

 

  1. ขาดการออกกำลังกาย 

การไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเพียงพอทำให้พลังงานที่ได้รับจากอาหารไม่ถูกเผาผลาญ ส่งผลให้ร่างกายสะสมพลังงานเหล่านี้ในรูปของไขมัน ยิ่งอายุมากขึ้น การเผาผลาญในร่างกายก็ยิ่งลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการมีไขมันสะสมที่พุงได้ง่ายขึ้น

 

  1. ปัจจัยด้านอายุและฮอร์โมน  

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญไขมันลดลง โดยเฉพาะในเพศหญิงที่มีการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนหลังหมดประจำเดือน ส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันที่บริเวณหน้าท้องได้ง่าย

 

  1. ความเครียด  

ความเครียดส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการสะสมไขมันบริเวณช่องท้อง อีกทั้งยังอาจทำให้คนหันไปพึ่งพาอาหารเป็นการผ่อนคลาย ส่งผลให้เกิดการรับประทานอาหารเกินความจำเป็น

 

  1. การนอนหลับไม่เพียงพอ 

การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้น้อยลงและสะสมไขมันมากขึ้น

วิธีการแก้ไข

  1. ควบคุมอาหาร การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่ครบถ้วนแต่ให้พลังงานต่ำ
  2. การออกกำลังกายช่วยในการเผาผลาญ และควรเสริมด้วยการฝึกเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ
  3. การผ่อนคลายจากความเครียดสามารถช่วยลดการสะสมไขมันได้ วิธีการจัดการความเครียดที่แนะนำคือ การนั่งสมาธิ โยคะ หรือการหากิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ
  4. การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้การนอนให้เป็นเวลาและหลีกเลี่ยงการนอนดึกก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไขมันสะสมที่พุง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

ทำไมสุนัขที่เลี้ยงกัดเจ้าของจนเสียชีวิต สาเหตุและวิธีการสังเกต ต้องทำอย่างไร

สุนัขที่กัดเจ้าของจนเสียชีวิตเป็นเหตุการณ์ที่หายากแต่ร้ายแรง สาเหตุที่สุนัขมีพฤติกรรมก้าวร้าวถึงขั้นกัดเจ้าของสามารถมาจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงปัจจัยทางด้านสุขภาพจิตของสุนัข การเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้อง หรือปัญหาทางสุขภาพ สาเหตุและวิธีการสังเกตมีดังนี้:

สาเหตุที่ทำให้สุนัขกัดเจ้าของ

  1. สัญชาตญาณการปกป้องหรือการครอบครอง

   สุนัขบางตัวมีสัญชาตญาณการปกป้องตัวเองหรือสิ่งของที่รัก เช่น อาหาร ของเล่น หรือที่อยู่ ซึ่งอาจเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อรู้สึกว่ามีคนหรือสัตว์อื่นมารุกล้ำพื้นที่หรือสิ่งที่ครอบครอง

  1. ปัญหาทางสุขภาพ  

   สุนัขที่มีปัญหาทางสุขภาพ เช่น ความเจ็บปวดเรื้อรัง ความบกพร่องทางการรับรู้ หรือโรคทางประสาท อาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหรือกัดคนเพื่อป้องกันตัวเองจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

  1. การเลี้ยงดูและการฝึกที่ไม่ถูกต้อง  

   การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม การทารุณกรรม หรือการฝึกที่ใช้ความรุนแรงอาจทำให้สุนัขมีความก้าวร้าวมากขึ้น การเลี้ยงดูที่ขาดความอบอุ่นและการสอนที่ถูกต้องอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์

  1. ความกลัวและความเครียด 

   สุนัขบางตัวอาจตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความกลัวหรือความเครียดอย่างรุนแรง เช่น การถูกทำร้าย การถูกกดดัน หรือการสัมผัสกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งอาจทำให้พวกมันมีพฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อตอบสนองต่อความกลัวนั้น

  1. การหวงทรัพยากร  

   สุนัขบางตัวมีความรู้สึกครอบครองทรัพยากร เช่น อาหารหรือของเล่น หากเจ้าของพยายามเข้าใกล้สิ่งที่พวกมันครอบครอง อาจทำให้เกิดการกัดขึ้น

 วิธีการสังเกตสุนัขที่มีความเสี่ยง

  1. พฤติกรรมการขู่ฟ่อหรือแสดงฟัน  

   การที่สุนัขขู่ฟ่อ แสดงฟัน หรือส่งเสียงขู่เป็นสัญญาณเตือนว่าสุนัขรู้สึกไม่ปลอดภัยและพร้อมที่จะโจมตี

  1. *ท่าทางที่แสดงความกลัวหรือก้าวร้าว 

   สุนัขที่หูลู่ ตาเบิกโพลง หางขดเข้าหาตัว หรือมีอาการตื่นตัวเกินไป แสดงถึงความไม่สบายใจและมีแนวโน้มที่จะกัด

  1. การกัดในลักษณะคาดไม่ถึง  

   หากสุนัขเริ่มกัดในสถานการณ์ที่ไม่เคยกัดมาก่อน เช่น การจับตัวเพื่อการดูแล หรือการเล่น แสดงว่าอาจมีปัญหาสุขภาพหรือพฤติกรรมที่ไม่ปกติ

  1. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างฉับพลัน  

   หากสุนัขที่ปกติเป็นมิตรกลับมีพฤติกรรมก้าวร้าวขึ้นอย่างฉับพลัน ควรสังเกตและตรวจสอบว่ามีปัญหาสุขภาพหรือสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกเครียดหรือไม่

 

วิธีการป้องกันและแก้ไข

  1. พาสุนัขตรวจสุขภาพ  

   หากสุนัขมีพฤติกรรมก้าวร้าวที่ผิดปกติ ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาปัญหาสุขภาพที่อาจเป็นสาเหตุ เช่น ปัญหาทางระบบประสาทหรือความเจ็บปวดเรื้อรัง

  1. การฝึกและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี 

   การฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งและการเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ เจ้าของควรให้ความสำคัญกับการฝึกที่ไม่ใช้ความรุนแรง แต่เน้นการฝึกด้วยความเมตตาและการให้รางวัล

  1. การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์  

   หากสุนัขแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมและปลอดภัย

  1. หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียด 

   เจ้าของควรสังเกตและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้สุนัขเกิดความเครียด เช่น การปล่อยสุนัขให้เจอคนแปลกหน้ามากเกินไป หรือการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย     Sexy Baccarat

การเลือกใช้ฟองน้ำล้างจาน 

เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่เราต้องมีติดบ้านทุกบ้านนั่นก็คือฟองน้ำที่เอาไว้สำหรับล้างจานนั่นเอง

ซึ่งฟองน้ำสำหรับล้างจานนั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดจานชามหม้อกระทะต่างๆเรียกได้ว่าใช้ในการทำเซตทำความสะอาดสิ่งของที่อยู่ภายในครัวทั้งหมดนั่นเอง

 

ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเรามาดูกันว่าถ้าเราต้องเลือกฟองน้ำล้าง

จานนั้นเราควรที่จะเลือกฟองน้ำล้างจานแบบไหนถึงจะเป็นฟองน้ำล้างจานที่ดีและมีเคล็ดลับอะไรในการเลือกซื้อฟองน้ำและสำหรับล้างจานที่ดีและมีคุณภาพบ้าง

การเลือกฟองน้ำสำหรับล้างจานที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพและประหยัดเวลาได้มากขึ้น นี่คือคุณสมบัติที่ดีของฟองน้ำล้างจานและเคล็ดลับในการเลือกซื้อ:

คุณสมบัติที่ดีของฟองน้ำล้างจาน

  1. ทนทาน: ฟองน้ำควรมีความทนทาน ไม่ฉีกขาดง่ายเมื่อใช้ล้างจานที่มีความแข็งแรง
  2. ดูดซับน้ำได้ดี:ฟองน้ำที่สามารถดูดซับน้ำและน้ำยาล้างจานได้ดี จะช่วยในการทำความสะอาดมากขึ้น
  3. มีส่วนผสมของสารต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย:ฟองน้ำที่มีสารต่อต้านเชื้อแบคทีเรียจะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค
  4. มีสองด้าน: ฟองน้ำที่มีด้านนุ่มสำหรับการล้างจานทั่วไป และด้านแข็งสำหรับการขัดคราบสกปรก จะช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น
  5. ไม่มีกลิ่น: ฟองน้ำที่ไม่มีกลิ่นเหม็นหลังใช้งานจะช่วยให้การล้างจานเป็นที่น่าพึงพอใจมากขึ้น
  6. มีขนาดพอดีมือ: ฟองน้ำที่มีขนาดพอดีมือจะทำให้การจับถือง่ายและสะดวก

 

 เคล็ดลับในการเลือกซื้อฟองน้ำล้างจาน

  1. เลือกฟองน้ำที่มีคุณภาพดี: ราคาฟองน้ำอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพ เลือกฟองน้ำที่มีชื่อเสียงและได้รับการรีวิวดี
  2. ตรวจสอบวัสดุ: ฟองน้ำที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพดีจะมีความทนทานและใช้งานได้นาน
  3. เลือกฟองน้ำที่มีสารต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย: เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์
  4. เลือกฟองน้ำที่สามารถทำความสะอาดง่าย: ฟองน้ำที่สามารถล้างทำความสะอาดได้ง่ายจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงฟองน้ำที่มีสีสันมากเกินไป: ฟองน้ำที่มีสีสันมากเกินไปอาจมีสารเคมีที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

ฟองน้ำที่ดีจะทำให้การล้างจานง่ายขึ้นและช่วยให้จานสะอาดมากขึ้น ดังนั้น  โอเล่777   การเลือกฟองน้ำที่ดีจะเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพและความสะอาดของครอบครัว

บาร์และร้านอาหารที่ดีที่สุดในอารีย์ 

บาร์และร้านอาหารที่ดีที่สุดในอารีย์เป็นสถานที่ที่กลุ่มคนมีสไตล์และเก๋ไก๋ที่รวมตัวกันในบริเวณนี้ของกรุงเทพฯ

ต่างมาพักผ่อนและเพลิดเพลินกับอาหารหรือเครื่องดื่มที่เหมาะกับรสนิยมของพวกเขา อาจเป็นกาแฟดริปกัวเตมาลา คราฟต์เบียร์ที่หาได้ยาก หรือเบอร์เกอร์ชิ้นหนาที่ทำจากเนื้อวากิวญี่ปุ่นและชีสฝรั่งเศสสูตรพิเศษ

อารีย์ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของสยามซึ่งอยู่ห่างจากวัฒนธรรมแฟรนไชส์กระแสหลักที่แพร่หลายในพื้นที่อื่นๆ ส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯ กลายเป็นจุดที่ความไม่สอดคล้องถือเป็นเรื่องปกติ

 

1.Salt    ร้านอาหารและบาร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในย่านอารีย์

พื้นที่ขนาดใหญ่อาจเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ด้วย ประกอบด้วยระเบียงกว้างขวาง ห้องรับประทานอาหารด้านหน้ากระจก และเลานจ์ค็อกเทลและซิการ์ที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง Salt Bar and Restaurant มีพื้นที่มากมายให้สำรวจ

ฝูงชนส่วนใหญ่เป็นคนไทยรุ่นใหม่ที่มีอาชีพเป็นชาวต่างชาติและมีชาวต่างชาติรู้รอบด้าน   มารับประทานอาหารเย็นและเพลิดเพลินกับซูชิโรล

พิซซ่าแป้งบางหรือพาสต้าฟิวชั่นชั้นยอด หรือแม้แต่หาพื้นที่ในสวนที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับค็อกเทลกับเพื่อน ๆ เพลงเลานจ์สุดเก๋และวงดนตรีอินดี้ที่ทันสมัยในระบบสเตอริโอเข้ากับบรรยากาศได้อย่างลงตัว

 

2.Pla Dib   ร้านอาหารฟิวชั่นไทย-ญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นร้านอาหาร ‘เก๋’ แห่งแรกในอารีย์

และมีผู้เลียนแบบหลายคน อย่างไรก็ตาม Bla Dip เป็นร้านดั้งเดิมและดีที่สุดด้วยพื้นที่กลางแจ้งและวงดนตรีสดที่เติมเต็มเมนูขนาดใหญ่และจับจดของทุกอย่างตั้งแต่ปลาหมึกทอดรสเผ็ดไปจนถึงลาซานญ่ามังสวิรัติ เชิญคราฟต์เบียร์

กาแฟชั้นยอด และส่วนผสมมากมายในครัวที่ส่งตรงจากฟาร์มของปลาดิปเอง เท่านี้คุณก็จะได้เป็นร้านแฮงเอาท์สุดคลาสสิกของอารีย์

ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์เพียงเล็กน้อย ลองนั่งมอเตอร์ไซค์หรือแท็กซี่มาก็ได้ ใครๆ ก็รู้จักชื่อ “บลาดิ๊บ” (แปลว่า “ปลาดิบ” ในภาษาไทย)

 

3.ฟิวเจอร์แฟคตอรี่กรุงเทพ   ฟิวเจอร์ แฟคทอรี กรุงเทพฯ

เป็นพื้นที่ศิลปะการทำงานร่วมกันซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดจากกิจกรรมทางดนตรีที่หลากหลาย หอศิลป์ขนาดเล็กแห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันพร้อมกิจกรรมพิเศษเพิ่มเติม

คุ้มค่าแก่การมาเยือนของผู้รักศิลปะ Future Factory ที่ซ่อนอยู่ใต้ชั้นใต้ดินของอาคารประกันภัยในอารีย์ มีขนาดกว้างขวาง ผนังทาสีขาว ให้ความรู้สึกเรียบง่ายและทันสมัย

​​เหมาะสำหรับการจัดนิทรรศการศิลปะและงานแสดงดนตรี   Future Factory เป็นเจ้าภาพจัดงานปาร์ตี้เป็นครั้งคราว แต่พื้นที่มีจำกัด ดังนั้นหมายเลขตั๋วจึงมักจะจำกัดอยู่ที่ประมาณ 300 ถึง 500 ใบ

ดังนั้น  Holiday Palace สมัคร    แม้ว่าการซื้อตั๋วที่หน้าประตูมักจะเป็นไปได้ แต่คุณอาจไม่ได้รับตั๋วหากงานนี้เป็นงานยอดนิยม ค่าเข้างานดนตรีราคาประมาณ 500 บาท แล้วแต่ใครจะเล่น

3 ข้อควรระวังในการเล่นกีฬาเอ็กสตรีม

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ในสมัยปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทไหนก็ตามรวมไปจนถึงกีฬาเอ็กซ์ตรีมถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง

เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีความท้าทาย ตื่นเต้น หวาดเสียว จึงทำให้กีฬาประเภทนี้เป็นกีฬาที่ มีความอันตรายค่อนข้างสูง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม กีฬาเอ็กซ์ตรีมยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสมัยปัจจุบันนี้

เพราะเป็นกีฬาที่มีประโยชน์ สามารถสร้างความตื่นเต้นเร้าใจและช่วยบรรเทาความเครียดให้กับใครหลายๆคนได้เป็นอย่างดี

แต่ทว่า สำหรับใครที่กำลังเป็นมือใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นเล่นกีฬาเอ็กสตรีม ขอบอกเลยว่าการเรียนรู้หรือการศึกษา ขั้นพื้นฐานของกีฬาไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตาม ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเพราะจะทำให้เรานั้นได้กีฬาได้อย่างปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุด

ฉะนั้น  alpha88 ทางเข้า     หากใครที่อยากเริ่มต้นเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูข้อควรระวังในการเล่นกีฬาประเภทนี้จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

1.การตรวจเช็คอุปกรณ์ทุกครั้ง

เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีความเสี่ยงและมีความอันตรายค่อนข้างสูงก่อนที่เราจะเริ่มต้นเล่นกีฬาประเภทนี้สิ่งที่เราควรจะตรวจเช็คให้ดีเลยก็คืออุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย

เพราะหากเรา มีอุปกรณ์ที่ไม่พร้อมใช้งานนอกจากจะทำให้การเล่นกีฬาไม่มีประสิทธิภาพแล้วยังอาจเกิดความเสี่ยงและเกิดความอันตรายต่อชีวิตของเราได้

 

2.การมีความพร้อมทางด้านจิตใจ

นอกจากร่างกายของเราจะมีความพร้อมในการเล่นกีฬาเป็นอย่างดีแล้วรู้หรือไม่ว่าอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญเลยก็คือสุขภาพจิตของเราย่อมต้องมีความพร้อมไปด้วย

เพราะหากเรามีร่างกายที่พร้อม แต่จิตใจของเราไม่พร้อมก็อาจจะทำให้การเล่นกีฬาไม่มีประสิทธิภาพได้ สิ่งที่เราควรจะระวังเลยก็คือ การมีสุขภาพจิตใจที่ดี และมีความพร้อมที่จะเล่นกีฬาเพื่อให้การเล่นกีฬามีประสิทธิภาพ

 

3.ไม่ควรฝืนร่างกาย

อย่างที่เราทราบกันดีว่ากีฬาเอ็กซ์ตรีมเป็นกีฬาที่มีความตื่นเต้นท้าทาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีความพร้อมของร่างกาย เพื่อให้การเล่นกีฬาเกิดประโยชน์สูงที่สุด

แต่หากใครที่อยากเล่นกีฬาแต่ร่างกายไม่พร้อมเราก็ไม่ควรที่จะไปฝืนร่างกายเพราะอาจจะทำให้เราเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการเล่นกีฬาได้นั่นเอง ฉะนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามการที่เรามีสุขภาพร่างกายที่พร้อมจะเล่นกีฬา

หรือพร้อมที่จะทำกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเพื่อให้การเล่นกีฬานั้นเกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพได้มากที่สุด