โรคไวรัสซิกา เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสซิกาซึ่งถูกแพร่กระจายผ่านการถูกยุงลายกัด ไวรัสนี้ถูกพบครั้งแรกในปี 1947 ในลิงที่อาศัยอยู่ในป่าซิกาในประเทศยูกันดา
หลังจากนั้น ไวรัสซิกาก็แพร่กระจายไปยังมนุษย์และถูกพบในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก รวมถึงแอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคแปซิฟิกใต้
ไวรัสซิกาสามารถแพร่กระจายได้หลายวิธี นอกเหนือจากการถูกยุงลายกัดแล้ว ยังสามารถแพร่ผ่านการสัมผัสทางเพศ การถ่ายเลือด และจากแม่สู่ลูกในครรภ์ได้ ซึ่งการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกในช่วงตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่มีความกังวลมากที่สุด
เนื่องจากไวรัสซิกามีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ทำให้เกิดภาวะ Microcephaly หรือภาวะศีรษะเล็กในทารก ซึ่งเป็นภาวะที่สมองของทารกไม่พัฒนาเต็มที่ ส่งผลให้เกิดความพิการในระยะยาว
อาการของโรคไวรัสซิกา
ผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาอาจไม่แสดงอาการใด ๆ หรืออาจแสดงอาการเล็กน้อยเช่น:
– มีไข้เล็กน้อย
– ผื่นขึ้นตามร่างกาย
– ปวดข้อหรือกล้ามเนื้อ
– ปวดหัว
– เยื่อบุตาอักเสบ (ตาแดง)
อาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ และหายไปเองภายใน 2-7 วัน โดยที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
แต่ในบางกรณี โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ การติดเชื้ออาจส่งผลรุนแรงและทำให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์ได้
การติดเชื้อไวรัสซิกาในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความผิดปกติที่สำคัญในทารก ภาวะที่พบได้บ่อยที่สุดคือ Microcephaly ซึ่งทารกจะเกิดมาพร้อมกับขนาดศีรษะที่เล็กกว่าปกติ
เนื่องจากสมองไม่ได้พัฒนาเต็มที่ นอกจากนี้ ทารกยังอาจเกิดความพิการทางร่างกายและระบบประสาทอื่น ๆ เช่น ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น และการได้ยินไม่สมบูรณ์
กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงในการป่วยจากไวรัสซิกาคือผู้ที่อาศัยอยู่ในหรือเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของยุงลาย ซึ่งส่วนใหญ่พบในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน เช่น อเมริกากลางและอเมริกาใต้ รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกใต้
นอกจากนี้ ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ เนื่องจากผลกระทบต่อทารกในครรภ์ที่อาจเกิดขึ้นได้
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสซิกา และยังไม่มีการรักษาเฉพาะที่สามารถกำจัดไวรัสได้ การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยง
โดยการใช้มาตรการป้องกันยุงลายกัด เช่น การใช้ยาทากันยุง การสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกาย และการใช้มุ้งหรือมุ้งลวดในบ้าน นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสในช่วงที่ตั้งครรภ์
สนับสนุนเนื้อหาโดย hoiana เวียดนาม