เสียงรบกวนรอบข้างได้ หลายสิ่งหลายอย่างมากมายที่เกิดขึ้นมา แน่นอนว่ามันมีเรื่องราวที่เรายังไม่รู้ และเรื่องราวที่เราเอง   ก็ได้เรียนรู้มาบ้างแล้ว

ซึ่งในวันนี้เป็นสิ่งที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อน แต่ถามว่ามันเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวของเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียว  เป็นเรื่องราวที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นคนที่ฉลาดซึ่งสัญญาณที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้นั้น เป็นสิ่งที่คุณเองก็อาจจะกำลังทำอยู่ก็เป็นไปได้ ถ้าหากคุณอยากจะรู้แล้วว่ามันคืออะไรเราไปทำความรู้จักและศึกษามันทำกันเลยดีกว่า

แน่นอนว่าบนโลกใบนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ที่เกิดขึ้นมาให้เราได้ศึกษาและทำความรู้จักเช่นเดียวกันกับเรื่องราว

ที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นะ ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเราควรที่จะศึกษาไว้เป็นอย่างมาก  มันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ สัญญาณที่ล้วนแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนฉลาดกว่าที่ตัวเองคิด  มีสัญญาณมากมายที่มนุษย์กระทำและบ่งบอกได้ว่า เราเป็นคนที่ฉลาดซึ่งสัญญาณดังกล่าวที่เรากำลังจะพูดถึง เช่นเดียวกันซึ่งมันเป็นสัญญาณที่ว่า  คุณไม่สามารถทนต่อเสียงรบกวน

รอบข้างได้มันจะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ไปทำความรู้จักกับมันพร้อมกันเลยดีกว่า ถ้าคุณอยากซื้อตั๋วเที่ยวเดียวไปบายเดอะบอส ให้เพื่อนบ้านที่คอยส่งเสียงดัง คุณก็ไม่ใช่คนเลวร้ายแต่ว่าเป็นคนฉลาดมากๆ หากเสียงเพลงดังๆและไม่น่าพิศวง มันยอมทำให้ทุกคนรำคาญ เรากำลังพูดถึงเสียงกระทืบเท้า  เสียงหัวเราะและการพูดเสียงดัง

หรือแม้แต่อาการที่แสดงถึงความไม่น่าเกิดขึ้นที่เป็นมลภาวะทางเสียง แน่นอนมีนักวิจัยทางการศึกษา ที่ดำเนินการวิจัยโดยมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น  ได้บันทึกการค้นพบ และระบุว่ามนุษย์ที่จัดได้ว่าเป็นอัจฉริยะ จะไม่ชอบเสียงรบกวนใดๆทั้งสิ้น  เพราะมันทำให้เขาเสียสมาธิกับการศึกษาค้นคว้าสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์ แน่นอนชาลส์ดาร์วินและนักเขียนนวนิยายชื่อดังมากมาย

+พยายามป้องกันสิ่งต่างๆในที่ทำงานของพวกเขาเป็นพิเศษ และ แน่นอนว่าการที่เราได้ยินเสียงดังๆในขณะที่เรากำลังทำงาน เรียน หรือว่ากำลังทำอะไรที่ต้องการสมาธิ  แน่นอนการได้ยินเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลา มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่หากจะนับตัวคุณเอง เราเชื่อว่าคุณเองก็เป็นคนที่ไม่สามารถ  ทนต่อเสียงรบกวนต่างๆเหล่านี้ได้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามอันนี้มีสัญญาณอีกมากมาย  ที่บ่งชี้ได้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน ซึ่งถ้าหากคุณสนใจเรื่องราวเหล่านี้หรือว่าอยากที่จะศึกษามันเพิ่มเติม ก็สามารถที่จะทำได้ผ่านอินเตอร์เน็ต

สนับสนุนโดย     ufabet

    อนาคตมนุษย์กลายเป็นอมตะ   เชื่อว่าหลายคนนั้นคงอยากมีชีวิตที่เป็นอมตะไม่อยากแก่ไม่อยากตายซึ่งแน่นอนว่าชีวิตที่เป็นอมตะสำหรับมนุษย์เรานั้นเป็นสิ่งที่ไกลตัวเป็นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่ามันไม่สามารถที่จะเป็นไปได้ซึ่งตามหลักความเป็นจริงของทางวิทยาศาสตร์แล้วไม่มีวิธีการไหน

ที่จะสามารถทำให้มนุษย์กลายเป็นอมตะได้เลย  สำหรับชีวิตที่เป็นอมตะนั้นส่วนใหญ่เราจะเห็นจากการ์ตูนหรือแม้แต่นิยายซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกแวมไพร์หรือแม่มดเท่านั้นที่สามารถเป็นอมตะได้ เราจึงได้แค่คาดหวังว่าสักวันหนึ่งน่าจะมีวิธีการใดวิธีการหนึ่งที่จะสามารถทำให้คนเรานั้นสามารถมีชีวิตที่เป็นอมตะได้เช่นเดียวกันกับในหนังนั่นเอง

              อย่างไรก็ตามได้มีนักอนาคตศาสตร์ของโลกซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งได้ออกมาพูดถึงเกี่ยวกับโลกอนาคตและการเป็นอมตะว่าในอนาคตซึ่งอาจจะอีกไม่นานนี้โดยคาดการณ์ว่าในอนาคตอาจจะมีวิทยาการชั้นสูงหรือเทคโนโลยีชั้นสูงที่จะสามารถสร้างโอกาสให้คนเราสามารถมีชีวิตที่เป็นอมตะได้

ซึ่งคนที่จะมีชีวิตที่เป็นอมตะได้นั้นน่าจะเป็นคนที่เกิดในช่วงยุคประมาณปีคศ 1970 เป็นต้นไป ศูนย์สาเหตุที่นักอนาคตศาสตร์ชื่อดังก้องโลกได้ออกมาพูดถึงประเด็นเรื่องของการทำให้มนุษย์กลายเป็นอมตะได้นั้นเพราะเขาเชื่อมั่นว่าในอีกหลาย 10 ปีข้างหน้านี้

นักวิทยาศาสตร์จะมีวิทยาการที่ก้าวหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและจะมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาที่มันจะสามารถทำให้มนุษย์เราไม่แก่ไม่ตายไม่เจ็บและกลายเป็นอมตะได้นั่นเอง  

                 สำหรับนักอนาคตศาสตร์ที่ออกมาพูดถึงเรื่องของการเป็นอมตะของมนุษย์โลกนั้นก็คือด็อกเตอร์เอียน พาสัน เขาเป็นนัก อนาคตภาษาที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเนื่องจากว่าเขานั้นค่อนข้างที่จะมีการทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ แล้วทุกครั้งที่ได้ออกมาทำนายนั้นเกิดขึ้นจริง   ufabet   ถึง 85 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่าเป็นนักอนาคตศาสตร์ที่เชื่อถือได้คนหนึ่งโดยเขาได้กล่าวไว้ว่า ณ ปัจจุบันนั้นโลกของเรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นมากมายมีวิทยาการล้ำหน้าและเขาเชื่อว่าเทคโนโลยีจะทำให้หลายสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้เป็นจริงขึ้นมาได้

        โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านพันธุกรรมระดับเซลล์ที่จะสามารถทำให้ร่างกายมนุษย์นั้นอ่อนไหวขึ้นอาจจะการผลิตเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนหรือการสร้างอวัยวะใหม่และการปลูกถ่ายอย่างแนบเนียนทดแทนอวัยวะเก่าที่ใช้งานไม่ปกติหรือเสื่อมสภาพ  นอกจากนี้เขายังได้กล่าวอีกว่าเขาเชื่อว่าชีวิตมนุษย์ขึ้นอยู่กับจิตใจนึกคิดร่างกายเป็นเพียงกลไกที่จิตสำนึกสั่งให้ทำ

          ดังนั้นในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีในการบันทึกประจำวันของมนุษย์ลงเอาไว้บน Cloud ซึ่งเมื่อร่างกายโรยราลงไปแต่จิตสำนึกยังอยู่ก็เหมือนว่าคนคนนั้นยังไม่ไปไหนและจะมีโอกาสในการอัพโหลดจิตสำนึกขึ้นบนคราวนั้นลงไปเก็บเอาไว้ใน Android หรืออาจจะเก็บไว้ในหุ่นยนต์ขึ้นมาให้เหมือนคนก็จะเหมือนกับว่าคนคนนั้นยังอยู่ตลอดไป